แคลเซียมแต่ละตัวต่างกันอย่างไร ?
แคลเซียมแต่ละตัวต่างกันอย่างไร ?
แคลเซียมแต่ละตัว
- 15-0-0 แคลเซียมไนเตรท +Ca 18%
- แคลเซียมคลอไรด์ 27%
- แคลเซียมอีดีทีเอ 9% (รูปแบบคีเลต)
ต่างกัน อย่างไร?
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักธาตุอาหารรองแคลเซียมกัน
#แคลเซียม เป็นธาตุอาหารรองของพืช จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับ แมกนีเซียมและกำมะถัน ซึ่งมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืชทุกระยะ หากขาดธาตุแคลเซียมหรือไม่เพียงพอต่อความต้องจะส่งผลให้พืชไม่มีการเจริญ
เติบโต ยอดหงิกงอ หลุดร่วง และระบบรากเสื่อมสภาพส่งผลให้พืชตายในที่สุด
แคลเซียมมีประโยชน์ต่อพืช
- ช่วยป้องกันต้นหักล้ม ใบหลุดร่วงหรือการเหี่ยวย่น
- ป้องกันใบเหลือง การเสื่อมสภาพของผนังเซลล์
- เป็นองค์ประกอบหลักของเซลล์ราก เนื้อเยื่อและผนังเซลล์พืช
- ช่วยในการเจริญเติบโตของพืช การแบ่งเซลล์ การผลิตฮอร์โมน
- เสริมสร้างเซลล์ดอก ก้านดอก และก้านเกสร
- ควบคุมการยืดเติบโตของเซลล์ดอกให้ขยายตัวได้อย่างปกติ
- ลดการหลุดร่วงของดอก เพิ่มอัตราการติดดอกได้ดีขึ้น
- ส่งผลให้ดอกมีการบานและติดผลที่ดีขึ้นป้อง
- ป้องกันผลแตก ผลเน่า ช่วยให้ได้ทรงสวย
- ช่วยในการสร้างสีของผลไม้ ให้สีสด
15-0-0 #แคลเซียมไนเตรท+Ca 18%
ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนอยู่ในรูปไนเตรท พืชสามารถดูดซึมได้ทันที ต่างจากการดูดซึมปุ๋ยยูเรีย โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการเปลี่ยนรูปจากยูเรียเป็นแอมโมเนีย หรือ Nitricification ไนเตรทช่วยเร่งการแตกใบอ่อน สร้างใบรวมถึงระบบราก และยังช่วยนำพาการธาตุ #แคลเซียม เข้าไปในพืชได้ดีอีกด้วย ทำให้ เห็นผลไวขึ้น หลังจากการใช้งาน
***** นิยมใช้ในระยะฟื้นต้น – บำรุงต้นในระยะแรก และ ระบบไฮโดรโปนิกส์
#แคลเซียมคลอไรด์ 27%
ปุ๋ยแคลเซียมเข้มข้น ที่มีปริมาณธาตุแคลเซียมสูงถึง 27% มีความเข้มข้นมากกว่า90% เป็นผลิตภัณฑ์ พู๊ดเกรด (food grade) สามารถใช้งานกับพืชได้อย่างปลอดภัย และยังสามารถช่วยรักษาสภาพผลผลิตได้ยาวนานขึ้นหลังจากการเก็บเกี่ยวจากต้น
***ส่วนประกอบ #คลอไรด์ หรือคลอรีน ที่มากับแคลเซียมคลอไรด์ หลายท่านอาจมีข้อสงสัยและกังวลเกี่ยวกับ ธาตุอาหารตัวนี้ ที่ส่วนใหญ่เข้าใจว่า เป็นเกลือมีความเค็ม เป็นผลเสียต่อพืช แต่ที่จริงแล้วคลอไรด์ หรือคลอรีนนั้น เป็นหนึ่งในธาตุอาหารเสริมที่พืชนั้นขาดไม่ได้ เพียงแต่ต้องการในปริมาณน้อย แต่มีความจำเป็น เนื่องจากเป็นธาตุอาหารที่มีบทบาทในการสร้างเอ็นไซม์ในพืช ในพืชมีสีเขียว ลดอาการใบเหี่ยวย่น ดังนั้นการใช้คลอไรด์ในปริมาณที่เหมาะสมจะทำให้พืชได้ประโยชน์มากกว่า สามารถใช้ได้ทั้งการหว่าน ฉีดพ่น และ ผสมไปกับระบบน้ำหยดหรือสปริงเกอร์
***** นิยมใช้ในทุกระยะของพืช